อยากบำรุงสมอง ต้องลองเลซิทิน
ถ้าพูดถึงสารอาหารบำรุงสมอง ส่วนใหญ่เรามักจะคุ้นกับ Fish Oil, กิงโกะ, วิตามินบี แต่จริงๆ แล้วมีสารตัวหนึ่งที่มีความสำคัญต่อสมองมาก นั่นคือ "เลซิทิน" ที่ชื่ออาจยังไม่คุ้นหูบางคนนัก หรือบางคนเคยได้ยินชื่อ แต่ไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์อย่างไร เราจะมารู้ให้ลึกกันว่าเลซิทินคืออะไร แล้วมันดีกับร่างกายอย่างไร
เลซิทินคืออะไร?
เลซิทินเป็นสารธรรมชาติที่ประกอบด้วยฟอสฟอรัส กรดไขมัน และวิตามินในกลุ่มวิตามินบี
อีกทั้งมีสารสำคัญที่ชื่อว่า “ฟอสโฟไลปิด (Phospholipid)” ที่มีความจำเป็นต่อการทำงานของทุกระบบในร่างกาย โดยเฉพาะสมองกับระบบประสาท ที่เป็นศูนย์สั่งการและคอยควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย จากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของ อเดลล์ เดวิส นักโภชนาการชาวสหรัฐฯ ได้รายงานว่าในร่างกายของคนที่มีสุขภาพดี จะมีสารเลซิทินอยู่ในสมองถึง 30% ของน้ำหนักทั้งหมด ดังนั้นเลซิทินจึงมีความสำคัญต่อสมองคนเรา
เลซิทินมีผลต่อสมองอย่างไร?
เมื่อเราได้รับเลซิทินเข้าไปแล้ว ร่างกายจะเปลี่ยนเลซิทินเป็นสารที่ชื่อ “โคลีน” และสารโคลีนก็จะถูกสังเคราะห์โดยเซลล์ประสาทเป็นสารชื่อว่า “อะซิติลโคลีน (Acetylcholine)” สารตัวนี้จะเข้าไปหล่อเลี้ยงเซลล์ประสาทช่วยในการส่งข้อมูลระหว่างเซลล์สมองแต่ละเซลล์ และระหว่างสมองกับการสั่งงานไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย และช่วยทำหน้าที่ในการถ่ายทอดข้อมูลและความรู้สึกเพื่อให้แสดงพฤติกรรมต่างๆ ได้ตามความต้องการของสมอง ซึ่งก็เกี่ยวพันกับการดำรงชีวิตในทุกๆ วันของเรา
เลซิทินบำรุงสมอง กันสมองเสื่อม
จากที่กล่าวข้างต้นจะเห็นว่าสารเลซิทินช่วยด้านระบบการทำงานของสมองและประสาท ซึ่งส่งผลในการช่วยบำรุงสมอง วงจรความจำ และการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพ ทำให้เราไม่หลงลืมอะไรง่ายๆ เพราะถ้าหากสมองของเราขาดสารตัวนี้ อาการหลงๆ ลืมๆ ถามหาแน่นอน รวมถึงการเรียนรู้และความจำจะเสื่อมสมรรถภาพลง หรืออาจเข้าขั้นสมองเสื่อมได้
ร่างกายต้องได้รับเลซิทินเท่าไหร่
ถ้าอยากให้สมองแล่น ต้องได้รับเลซิทินบำรุงสมองวันละ 1,200 – 2,400 กรัม
เลซิทินอยู่ในอาหารชนิดไหน
เราสามารถได้เลซิทินจากอาหารใกล้ตัวอย่าง ไข่ ถั่วเหลือง เมล็ดทานตะวัน ตับ บริเวอร์ยีสต์ (เป็นยีสต์ที่เพาะไว้เพื่อใช้เป็นอาหารเสริมโดยเฉพาะ ซึ่งให้โภชนาการที่สมบูรณ์หลากหลาย) แต่ว่าอาหารต้องผ่านกรรมวิธีการปรุงเช่น ต้ม ทอด ย่าง ซึ่งความร้อนอาจทำลายเลซิทินไปมาก ฉะนั้นการทานอาหารอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ การรับผลิตภัณฑ์อาหารเสริม (Supplements) หรือเลซิทินสกัดธรรมชาติเสริมก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้ร่างกายได้รับเลซิทินในปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกาย
เลซิทินจำเป็นต่อสมองทุกเพศทุกวัย
พูดได้เลยว่าเลซิทินเป็นสารธรรมชาติที่ทุกเพศทุกวัยต้องการ ตั้งแต่วัยเด็กที่ต้องการเลซิทินไปใช้ในการสร้างเซลล์ต่างๆ ของร่างกายพร้อมเสริมสร้างความจำและการเรียนรู้ วัยทำงานเป็นวัยที่ใช้สมองเยอะ นอนดึก ทำงานหนักบวกกับความเครียดสูง เลซิทินจึงถือเป็นแหล่งพลังงานสำคัญของสมอง และวัยผู้สูงอายุจะช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อมหรือโรคอัลไซเมอร์รวมถึงโรคพาร์กินสัน
โดยปัจจุบันนิยมใช้เลซิทินรักษาคนไข้ที่มีบกพร่องความจำและระบบประสาทโดยการทานเลซิทินวันละ 25 กรัมเป็นเวลาหลายเดือนติดต่อกันพบว่ามีอาการดีขึ้น และการศึกษาในผู้ที่เป็นโรคความจำเสื่อมระยะเริ่มแรก พบว่าการให้ได้โคลีนจากเลซิทินระยะเวลา 6 เดือนจะช่วยให้ความจำดีขึ้นได้และรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น หรือการให้เลซิทินร่วมกับยาที่ใช้รักษาก็จะทำให้มีการพัฒนาความสามารถที่ต้องใช้ความจำด้วย
ประโยชน์ด้านอื่นๆ ของเลซิทิน
- นำพาวิตามินเข้าสู้ร่างกาย
การได้รับเลซิทินจะช่วยให้ร่างกายสามารถนำวิตามินที่ละลายในไขมันเช่น วิตามินเอ ดี อี และเค ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายและนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระชะลอกระบวนการเสื่อมสภาพของเซลล์ ส่งผลให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันและสุขภาพโดยรวมดีขึ้น
- ช่วยสร้างเยื่อบุผิวเซลล์ต่างๆ
ร่างกายจะนำเลซิตินไปใช้ในการสร้างเยื่อบุผิวเซลล์ต่างๆ เช่น เซลล์เม็ดเลือด เซลล์กล้ามเนื้อ เซลล์ผิวหนัง รวมถึงเซลล์ของอวัยวะต่างๆ และเลซิทินยังเป็นองค์ประกอบหนึ่งในการสร้างโมเลกุลที่สำคัญต่อร่างกายเช่น ฮอร์โมน เอนไซม์ ระบบภูมิคุ้มกันบางชนิด การแข็งตัวของเลือด เพื่อให้การทำงานภายในร่างกายสามารถขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เห็นชัดหรือยังว่า “เลซิทิน” มีความสำคัญต่อสมองและร่างกายของเรามาก โดยเฉพาะสมอง หากอ่อนแอเมื่อไหร่ ระบบร่างกายอื่นๆ รวนตามแน่นอน คุณคงไม่อยากเป็นคนหลงลืม จำอะไรไม่ค่อยได้ สมองตื้อเพราะความเครียด ฉะนั้นสิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือการดูแลและรักตัวเอง มองหาสิ่งที่เสริมร่างกายและสมองให้สมบูรณ์พร้อมสำหรับการทำงานและใช้ชีวิตในแต่ละวัน การเลือกเสริมเลซิทินให้ร่างกายถือเป็นตัวเลือกที่ดี ไม่มีอันตรายเพราะส่วนใหญ่แล้วสกัดจากธรรมชาต